รื้อซากที่พัง สร้างฐานที่มั่นคง ต้องใช้เวลา

รื้อซากที่พัง สร้างฐานที่มั่นคง ต้องใช้เวลา

blog

รื้อซากที่พัง สร้างฐานที่มั่นคง ต้องใช้เวลา

4 ปีที่แล้ว  1,608

รื้อซากที่พัง สร้างฐานที่มั่นคง ต้องใช้เวลา


โอเล่ กุนนาร์ โซลชากุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคุมทีมช่วงเผือกร้อนในตอนนั้น
รับช่วงต่อจากโจเซ่ มูริญโย่ แฟนบอลไม่ได้คาดหวังมากมาย

แต่ด้วยการเป็นศิษย์ของสถาบันแห่งนี้ โอเล่ถือเป็นตัวเลือกในการเข้ามากอบกู้
ในสิ่งที่ยูไนเต็ดเสียไปตั้งแต่เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสันจากไปตั้งแต่มอยส์ที่มีปัญหาเรื่องทีมงาน

ตอนนั้นมอยส์เองปลดทีมงานของทีมและแต่งตั้งทีมงานของตัวเอง การไม่พึ่งบรรดานักเตะรุ่นเก๋าภายในทีม

และปัญหาการจัดการของบอร์ดทำให้ยูไนเต็ดตอนนั้น ผลงานไม่เข้าตาเลย

จากนั้นหลุย ฟานกัล เข้ามา ด้วยความหวังจะวางรากฐานให้กับยูไนเต็ด

แต่แล้วสิ่งที่ฟานกัลป์ปลูกฝังคือการต่อบอลและต่อบอล
ไม่มีแผนเข้าทำที่แน่นอน จริงอยู่ว่าแท็คติกนั้นสำคัญ

แต่ปรัญชาของสโมสรก็สำคัญเช่นกัน เมื่อไปด้วยกันไม่ได้ ฟานกัลก็เป็นเพียงคนคุ้นเคยที่จากทีมอีกครั้ง


โดยมูริญโย่ ยอดกุนซือระดับโลกคือรายล่าสุดที่เหล่าแฟนบอลหวังในการพาทีมกลับมาลุ้นแชมป์อีกครั้ง

จริงอยู่ที่น้ามูพาทีมคว้าแชมป์และมีโอกาสมากมาย แต่ด้วยปัญหางัดข้อกับบอร์ดบริหาร
การเรียกร้องที่ไร้ความหมาย จนทำให้ผลงานของทีมนั้นดิ่งลงอย่างเห็นได้ชัด
ไม่แปลกเลยที่สุดท้ายยูไนเต็ดกับมูริญโย่ต้องยุติ โอเล่เข้ามาพร้อมแบกรายละเอียดมากมาย
การซื้อตัวด้วยกุนซือต่างๆ ก่อนนี้กลับกลายเป็นปัญหา และฟอร์มการเล่น อาการบาดเจ็บ
แนวทาง รวมถึงปรัญชาต่างๆ ติดลบทั้งหมด ซึ่งถือเป็นงานหยาบอย่างแรกของโอเล่เลยก็ว่าได้ในฐานะกุนซือชั่วคราวในขณะนั้น


ฟอร์มการเล่น 10 นัดแรก การเล่นเต็มไปด้วยความกระหายชัยชนะ ทุกอย่างเหมือนถูกเขียนบทว่า
นี่คือคนที่จะมาสานต่อ แต่คนที่จะนำพายูไนเต็ดกลับสู่หนทางลุ้นแชมป์อีกครั้ง
แต่ทว่าเมื่อโอเล่ ได้สัญญาถาวร ทุกอย่างจากสิ่งที่เรียกว่าสวยงามกลับกลายเป็นมืดมิด

การขาดนักเตะหลายคนในช่วงท้ายฤดูกาล การเล่นที่ไม่เหมือนช่วงแรกที่คุมทีม
โดยทั้งหมดนั้นถือเป็นความล้มเหลวทั้งสิ้น แต่ในช่วงที่เข้ากลางคันเป็นสิ่งที่รับได้

และแล้วเข้าสู่ฤดูกาลที่โอเล่ต้องจัดการและเข้ามาคุมทีมจริงจัง โดยแฟนบอลต่างเฝ้ารอการเปลี่ยนแปลง

สิ่งที่โอเล่บอกครั้งนั้นคือ การเปลี่ยนแปลงนั้นใช้เวลา
ซึ่งอาจจะต้องใช้การซื้อขายหลายรอบตลาดถึงจะทำให้ยูไนเต็ดกลับมาสู่ฟอร์มที่ดีอีกครั้ง

หลังจากทุกอย่างที่พังทลายด้วย 3 กุนซือก่อนหน้านี้ ถึงเวลาที่โอเล่นั้นวางแผนที่จะรื้อซากที่มันพัง และปรับฐานให้มั่นคงอีกครั้ง


โอเล่ใช้ปรัญชายูไนเต็ดคือเน้นเกมส์รุก เน้นดาวรุ่ง และเข้าใจรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการซื้อขายนักเตะที่โอเล่กำกับดูแล ให้เป็นไปตามแผนงานที่เขาวาดฝันเอาไว้

และเรื่องราวของการรื้อซากเริ่มต้นจากตลาดซื้อขายครั้งแรกในฐานะกุนซือยูไนเต็ดของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา


ผมจะขอยกรายละเอียดการซื้อขายของทีมดังนี้นะครับ


- การซื้อแนวรับที่เป็นปัญหาเรื้อรัง ทั้งที่มูริญโย่เองก็เรียกร้องมาก่อนหน้านี้
ประเด็นแรกโอเล่ซื้อแม็คไกวร์เข้ามาเสริมแกร่งและเป็นหัวใจในแนวรับ
สิ่งที่แม็คไกวร์มีไม่เพียงแค่ทักษะฟุตบอล แต่ความเป็นผู้นำทั้งในและนอกสนามคือสิ่งที่ยูไนเต็ดตามหา
ต่อมาจัดการซื้อบิซซาก้าแบ็คขวาด้วยมูลค่า 50 ล้านปอนด์ คำถามแรกที่ยังคงอยู่หัวคือ ใครหว่ะ?
แต่สิ่งที่บิซซาก้าตอบมาดังๆคือ ข้าคือนักเตะแบ็คขวาที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่งในสีเสื้อปีศาจแดงนั้นเอง
นั้นทำให้แฟนบอลเริ่มหลงไหล และชอบในตัวเขาอย่างยิ่ง และเจมส์เพิ่มแก้ปัญหาริมเส้นฝั่งขวา
ความจริงคือยูไนเต็ดแทบขาดผู้เล่นทุกตำแหน่ง เพราะที่มีนั้นคุณภาพไม่พอ
ทำให้ทีมนั้นไม่สามารถยกระดับได้ แต่เมื่อโอเล่จัดการ 3 นักเตะในตลาดเดียวถือเป็นเรื่องที่ดี

เพราะทุกคนต่างตอบแทนด้วยฟอร์มการเล่นที่ดี


- การปล่อยนักเตะที่ไม่มีประโยชน์ออกจากทีม โอเล่ชัดเจนจุดนี้ ชัดเจนว่าใครไม่เข้าปรัญชา
และชัดเจนว่าใครจะเป็นซีเนียร์ให้กับทีม การปล่อยลูกากูหลังจากลงทุนมหาศาลถือเป็นเรื่องเซอร์ไพร์เหมือนกัน
ลูกากูไม่ใช่นักเตะที่ไม่เอาไหน ความคมพอตัว แต่สิ่งที่ลูกากูไม่มีคือการเล่นที่หลากหลาย
ต่อมาการปล่อยอเล็กซิสที่กลายเป็นส่วนเกินอย่างชัดเจน ภาระยูไนเต็ดยังคงแบบรับ
แต่การปล่อยนักเตะที่ใช้การไม่ได้ในมุมมองผู้จัดการเป็นสิ่งที่ควรทำ รวมทั้งหลายๆ คนที่ย้ายออก
การปรับสมดุลระหว่างอายุในทีม และการพึ่งบรรดาแนวรุกที่เป็นดาวรุ่งย่อมมีความเสี่ยง แต่โอเล่เลือกที่จะทำแบบนี้


ดังนั้นตลาดแรกของโอเล่เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย แต่ยูไนเต็ดเองไม่สามารถเล่นได้อย่างดี
แม้ว่าเสริมทัพแล้วในครั้งแรก การขาดหายผู้เล่นหลายคน ป็อกบา แม็คโทมิเนย์ ไบยี่
รวมถึงต้องใช้ผู้เล่นอย่างลินการ์ดและเปเรร่า ที่ไม่มีความคงเส้นคงวา ทำให้ฟอร์มยูไนเต็ดไม่เอาอ่าวเหลือเกิน


ผมเองเคยด่าโอเล่อย่างเสียหายในช่วงนั้น ที่เจ้าตัวดื้อด้านว่าทำไมยังส่งลูกรัก ทำไมจัดตัวแบบนี้
ทำไมทำอะไรไม่คิด และสารพัดคำถามทำไม ทำไม ทำไม ทำให้ผมกลายเป็นคนอคติกับโอเล่ไปโดยปริยาย
รวมทั้งการจัดการของบอร์ดบริหารที่งี่เง่าในช่วงนั้น ทุกอย่างเหมือนกำลังพังหนักกว่าเดิม ไม่ใช่การเก็บซากเพื่อพัฒนาต่อ
แต่ว่าโอเล่ยืนยันคำเดิมว่า “การเปลี่ยนแปลงนั้นใช้เวลา”

ผมย้อนนึกถึงช่วงที่เอ็ด วู้ดเวิร์ด CEO ของทีมให้สัมภาษณ์ เขายอมรับว่าที่ผ่านการซื้อขายของเขานั้นผิดพลาด
เขาไม่ได้ซื้อขายเพื่อสร้างยูไนเต็ดที่ควรจะเป็น เขาซื้อเพราะความเป็นหนึ่ง ไม่ได้ซื้อเพื่อสโมสร เพื่ออนาคต
ดังนั้นสิ่งที่เขาปรับ คือการซื้อเพื่ออนาคต การซื้อนักเตะเพื่อมีใจให้ทีม แต่การซื้อเพื่อให้ทีมไปสู่เป้าหมาย

นั้นสอดคล้องกับโอเล่ที่ว่า “จะต้องใช้อีกหลายรอบการซื้อขาย” ถึงจะกลับมาเป็นยูไนเต็ดที่แฟนๆ รู้จัก
และคิดถึง ฤดูกาลนี้ยูไนเต็ดสามารถเล่นกับทีมนำได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะอยู่บ่อยครั้ง
แต่ตกม้าตายกับทีมเล็กอยู่ๆบ่อย ยูไนเต็ดไม่ได้ขาดชื่อเสียง แต่ขาดมิติและความสมดุลของทีม


พอล ป็อกบาคือนักเตะตัวความหวังที่แฟนบอลไม่ได้หวังกับเขาเลยในปีนี้

นั้นทำให้แดนกลางของยูไนเต็ดทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ในวิกฤตมักมีโอกาสเสมอ

เฟร็ดคือนักเตะที่แฟนบอลไล่ อย่าง หมู หมา กลับตอบแทนความพยายามของตัวเองกลายเป็นที่รัก

และที่ชอบของแฟนยูไนเต็ดมากมายในเวลานี้ และเมื่อตลาดซื้อขายช่วงมกราคมมาถึง ยูไนเต็ดได้ทำการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง


- การซื้อบรูโน่และยืมตัวอิกาโล่ถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นใหญ่ที่ทำผลงานทีมกลับมาอยู่จุดที่ควรจะอยู่อีกครั้ง

สิ่งแรกที่โอเล่จัดการเมื่อบรูโน่เข้ามาคือ ชัดเจนว่า บรูโน่คือจอมทัพของทีมคนใหม่

ซึ่งบรูโน่เองตอบแทนความเชื่อมั่นนั้นอย่างคุ้มค่า หลังจากเจ้าตัวลงเล่นกับยูไนเต็ด ทีมยังไม่แพ้เลย


- อิกาโล่เป็นอีกดีลที่น่าสนใจในตลาดรอบที่ผ่านมา อิกาโล่คือใครหว่ะในตอนนั้น ครั้งแรกที่ย้ายมา

คำถามแง่ลบมักเข้าหาอยู่เสมอ เพราะเจ้าตัวไม่เคยแสดงความสามารถให้เห็นต่างกับบรูโน่ที่แฟนบอลส่วนใหญ่รู้จัก

เช่นกันอิกาโล่ตอบแทนแฟนบอลที่ตั้งคำถามด้วยการทำประตู นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้อิกาโล่เข้ามาสู่ในใจแฟนๆ ได้


- การปล่อยโรโฮเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของทีม และการได้นักเตะที่รับบาดเจ็บกลับมา

ทำให้ฟอร์มการเล่นของยูไนเต็ดในช่วงนี้กลับสู่ฟอร์มที่ดีอีกครั้ง

การเก็บคลีนชีทมากมายในช่วงหลังคือการบอกถึงเกมส์รับที่ดี และการเล่นเป็นทีมที่ดี

หลากคนยังสงสัยว่าโอเล่คือเจ้าพ่อแท็คติกจริงหรือ ซึ่งผมเองก็ต้องตอบว่าไม่ใช่

แต่เขาเป็นแนววางแผนแบบนัดต่อนัดมากกว่า

แต่ปรัญชาที่สำคัญที่เข้าลงลึกไปทุกลูกทีมทุกคนคือ การเล่นให้เร็วและสร้างจังหวะประตูให้ได้

นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมเกมส์โต้กลับของยูไนเต็ดในปีนี้กลับเป็นสิ่งที่น่าสนใจ

ผมของยกบทสัมภาษณ์ของโอเล่หน่อยนะครับ

“ผมเองถูกถามมาตลอดเกี่ยวกับงานนี้ ซึ่งผมเองก็ทำให้เห็นแล้วว่าเรากำลังทำอะไรอยู่”

“ผมบอกเสมอว่าอาจจะเป็น 2 หรือ 3 หรือ 4 สัปดาห์ข้างหน้า ตอนนี้เรากำลังสร้างทีมใหม่

เรากำลังเสียนักเตะหลายคน และเราเองก็กำลังจะเสริมนักเตะอีกหลายคน”

“เราต้องนักเตะที่เล่นเพื่อเรา เล่นเพื่อสโมสร เล่นเพื่อวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเรา”

“เราไม่ได้อยู่ในช่วงของเซอร์อเล็ก เรากำลังอยู่ในยุคขอ และเราก็ต้องการนักเตะที่มีทั้งความพร้อมด้านจิตใจและฟอร์มการเล่น”


แน่นอนว่า ทีมของเขาและเซอร์อเล็กไม่ได้เหมือนกันหรอกนะ

และสิ่งที่เรามีคือการทำให้ทีมชนะ และชนะต่อไป

ผมยังไม่มั่นใจหรอกนะว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้หรือไม่ แต่เชื่อว่าช่วงเวลาอันใกล้ มันจะเกิดขึ้น

เพราะสิ่งที่เรากำลังทำคือการสร้างปรัญชาและแนวทางของสโมสรที่ควรจะเป็น

นั้นคือเรื่องราวบทแรกที่ชายที่ชื่อโอเล่ กุนนาร์ โซลชากับซากที่พักทลายของยูไนเต็ด

เขารับมือกับปัญหา เขาจัดการได้ดีเขาจัดการนักเตะได้ดี หาทางออกร่วมกัน เพราะมันคือสิ่งที่ผู้จัดการทีมควรจะเป็น

หากใครจำได้ มาติชคือคนที่วิจารณ์โอเล่ในช่วงแรก

แต่สุดท้ายมาติชคือคนที่กล่าวชมในช่วงหลัง ไบยี่เองก็เช่นกัน และอีกหลายๆ คนก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน


ช่วงโควิด 19 ครองเมืองทำให้หยุดฟอร์มอันร้อนแรงของยูไนเต็ดในตอนนี้

แต่สิ่งที่แฟนบอลต่างเฝ้ารอตอนนี้ คือเมื่อไรทีมจะกลับมาลงเล่นอีกครั้ง

และอยากเห็นฟอร์มการเล่นที่พัฒนาต่อเนื่องของนักเตะของทีม นั้นคือสิ่งที่ทุกคนเฝ้ารอ

แม้ว่าฤดูกาลนี้จะเป็นยังไง หรือ จบแบบไหน ก็เป็นเรื่องของอนาคต

แต่สิ่งที่ชัดเจนตอนนี้คือ นักเตะของยูไนเต็ดในตอนนี้ คือ นักเตะที่พร้อมเล่นให้กับตราสโมสรมากกว่าอื่นใด


บทสรุปในตลาดซัมเมอร์จะเป็นอย่างไร จะซื้อใคร จะขายใครออก หรือ จะเปลี่ยนแปลงยังไง

แต่ 5 คนที่โอเล่รับผิดชอบในการซื้อตัวมานั้น ภายใต้เขา ถือเป็นการตอบโจทย์ทั้งเรื่องฟอร์มการเล่น

และ เรื่องจิตใจที่แข็งแกร่ง พร้อมสู้เพื่อเกียรติยศให้กับตราสโมสรอย่างแท้จริง


หลังจากนี้ แม้ว่าผลงานจะดีหรือไม่ สิ่งที่โอเล่บอกครั้งแรกคือการเปลี่ยนแปลงและสร้างใหม่

อาจจะเป็นเรื่องจริง แม้ว่าระหว่างทางจะมีอุปสรรคมากมาย แต่แนวทางที่โอเล่และทีมยึดมั่นยังคงเดิม

และเหมือนเดิมอยู่เสมอตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งกุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


“แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แฟนบอลก็พร้อมสนับสนุนครับบอส”


“อุปสรรคระหว่างทางมากมายเสมอ แต่ความสำเร็จที่ปลายทางมีแค่ทางเดียวครับบอส”



“แฟนๆจะอยู่ข้างคุณเสมอ”